วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ไม่เรียนต่อดีไหม (การศึกษามีความสำคัญตลอดกาล)

ในปัจจุบันมักมีการโน้มน้าวถึงความไม่สำคัญของการศึกษา เช่นเรียนนิดหน่อยก็พอจากนั้นให้รีบทำงาน
.
โดยส่วนตัวสำหรับความเห็นในปัจจุบันของผู้เขียนนั้นยังไม่เห็นด้วยกับแนวทางและวิธีคิดดังกล่าว ด้วยเหตุผลที่ว่า
.
เรามีเวลาที่จะทำงานได้เยอะเช่น 30 ปีกว่าจะ 60 ปี (นานไหมละ) โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไม่เรียนหนังสือแล้วรีบมาทำงานหาเงิน ยิ่งเรียนให้สูงได้ยิ่งดี ยกเว้นผู้ที่มีความจำเป็นไม่มีฐานะที่มากพอที่จะเรียนหนังสือ แต่เมื่อตั้งหลักได้ ตัวผู้เขียนก็อยากที่จะให้เรียนหนังสือ อ่านหนังสือ เพื่อเป็นพื้นฐานให้ตัวเองในอนาคตมากที่สุด
.
เพราะการศึกษานั้นให้ แนวทางในการค้นคว้า เพื่อน สังคม ที่เราจะได้เปิดโลกทัศน์และเราจะขาดโอกาศในอนาคตหากเรา มีโอกาสได้เรียนแต่เลือกที่จะไม่ศึกษาต่อ
.
แต่การศึกษาต่อนั้นเราจำเป็นที่จะต้อง เลือกเรียนให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของสังคม รวมถึงเป็นอาชีพที่มีความสามารถในการแข่งขันในอนาคตด้วย
.
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพตัวผู้เขียนนั้นเลือกเรียนในศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมโยธา  ซึ่งด้วยความที่ฟลุคปรากฏว่า เมื่อตัวผู้เขียนสำเร็จการศึกษา กลับเป็นวิชาชีพที่ตัวผู้เขียนสามารถทำงานได้หลากสายงาน ไม่ว่าจะเป็นสายงานเอกชน หรือภาครัฐที่เปิดรับเกือบจะทุกกรม และเป็นองค์ความรู้ที่เฉพาะทางคือถ้าไม่เรียนก็ไม่สามารที่จะแย่งงานข้ามสายได้ เป็นต้น
.
จะเห็นว่าการศึกษาเราเลือกเรียนในสิ่งที่เราชอบและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดจะทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขัน ถ้าเราไม่ศึกษาต่อเราจะขาดโอกาสในการแข่งขันในนาคต
.
ตัวผู้เขียนเคยฟังบทสัมภาษณ์ของคุณ ตัน อิชิตัน เขาให้สัมภาษณ์ว่า " เหตุผลที่เขาลงทุนเฉพาะแต่ในที่ดินเป็นเพราะเขามีความรู้น้อย เรียนมาน้อย ถ้าเขามีความรู้มากกว่านี้เขาคงลงทุนอย่างอื่นได้ และคนรุ่นใหม่นั้น ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เวลาเรียนมาแต่เป็นพื้นฐานที่ดีให้กับตัวเองได้ในอนาคต "
คำพูดจากเศรษฐีท่านนี้น่าจะเป็นการย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาได้
.
แม้แต่ผู้ที่เรียนจบแล้วยังต้องหาความรู้ตลอดเวลาเหตุใดการเรียนเพื่อเป็นพื้นฐานจึงไม่สำคัญ
จริงไหมครับน้องๆ หวังว่าบทความนี้จะทำให้น้องๆมีกำลังใจในการศึกษาต่อและฟันฝ่าอุปสรรคไปจนประสบความสำเร็จนะครับ



ผู้เขียนบทความ
คุณานนต์   ไข่มุกข์
เจ้าของเพจ facebook " นายน้อย "


กลุ่ม, การศึกษา, การสำเร็จการศึกษา



ผลงานขับเคลื่อนด้วยสมาธิ

ในปัจจุบันเรามักที่จะมีสิ่งเร้าต่างๆไม่ว่าจะเป็น facebook  youtube หรือ instagram ที่จะคอยดึงเวลาของเราให้หมดไปในแต่ละวัน
.
แนวทางที่ตัวผู้เขียนใช้เพื่อที่จะให้เราได้ผลิตผลงานมากขึ้นนั้น เราจะต้องทำให้โอกาสในการเข้าถึงโปรแกรมต่างๆน้อย โดยอาจจะเอาโทรศัพท์ออกไปไว้นอกห้องจะทำให้เรามีสมาธิในการผลิตผลงานที่มากขึ้น
.
ผลิตผลงานโดยไม่สนใจสิ่งเร้า เช่นเพื่อนร่วมงานอาจจะเดินไปมาในขณะที่เรากำลังทำงานและผลิตผลงาน เหล่านี้อาจจะลดประสิทธิภาพของการทำงานเราได้ อาจจะต้องตั้งขีดจำกัดผลงานที่เราจะต้องผลิตให้ได้ในแต่ละวันจะทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นในการทำงานได้
.
เหล่านี้เป็นเพียงแนวทางของตัวผู้เขียนเอง
.
สุดท้ายแล้วผลงานของเราจะออกมาดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราบริหารสมาธิของเราได้ดีแค่ไหน
.
เพราะสมาธิเป็นตัวขับเคลื่อนผลงาน
พายุ, หมู่บ้าน, เจ้าอารมณ์

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ให้อำนาจแก่ผู้สูงอายุ

ผมมักที่จะชอบให้เงินพ่อแม่และอาม่า เมื่อได้รับเงินเดือน จากการทำงาน
.
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกท่านควรจะได้รับ และการตอบแทนเพียงเท่านี้อาจจะเทียบไม่ได้เลย กับพระคุณที่แต่ละท่านได้ให้กับผมมา
.
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากที่จะให้ท่านทั้งหลาย รู้สึกขาดหายไปคืออำนาจ ในการที่จะได้ทำอะไร ในสิ่งที่ตนเองอยากทำ  เงินจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้ญาติผู้ใหญ่ของเรารู้สึกมีอำนาจในการที่จะทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ  เหมือนตอนเป็นวัยหน่มสาว ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ ซื้อของในสิ่งที่อยากจะกินและอยากได้ ได้เที่ยวพักผ่อนอย่างมีความสุขเป็นต้น
.
ผมจึงรู้สึกว่าสิ่งนี้บางทีลูกหลานเมื่อได้มีงานมีการทำนั้นอาจจะลืมไปที่จะให้สิ่งเหล่านี้กับผู้มีพระคุณ เมื่อเราฝึกให้อย่างสม่ำเสมอแม้จะน้อยนิด แต่เราจะค่อยๆมีกำลังทรัพย์ให้ท่านได้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่ารอที่จะต้องมีเยอะๆก่อนแล้วจึงให้เพราะไม่รู้เราจะมีโอกาสนั้นไหม และผู้มีพระคุณของเราต้องรอไปอีกนานแค่ไหน ฝึกให้เท่าที่เราให้ได้
.
เรายังอยู่ในช่วงวัยทำงาน ถ้าเรามีเงินน้อย เราก็สามารถที่จะขยัน แล้วหาเงินเพิ่มได้ แต่ญาติผู้ใหญ่นั้นเรี่ยวแรงท่านไม่เหมือนกับเรา ถึงแม้ว่าอยากจะทำแต่สังขารไม่ให้
.
จึงขึ้นอยู่กับลูกหลานที่จะต้องทำหน้าที่ให้ดี  ให้สมบูรณ์ อย่าให้อำนาจที่ท่านผู้มีพระคุณของเราที่เคยมีหายไป


ผู้เขียนบทความ
คุณานนต์    ไข่มุกข์

กลางแจ้ง, ข้างนอก, ชีวิตในเมือง

ดับทุกข์ให้ถูกที่

คนเราพยายามที่จะหาความสุข เข้ามาในชีวิต
.
เพราะชีวิตของเรานั้นมีความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว เพื่อน ลูกค้า หนี้หรืออื่นๆมากมายไปหมดในแต่ละวัน
.
เราจึงหาความสุขเข้ามาเติมเต็มในแต่ละวัน ซึ่งบางครั้งการที่เราวิ่งหาความสุขที่ผิดวิธีอาจจะทำให้
เราเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม แลกกับการที่เราได้พ้นซึ่งความทุกข์อย่างชั่วคราว
.
เมื่อเราได้ความสุขอย่างชั่วคราวอย่างผิดวิธีแล้วนั้น อาจจะทำให้ปัญหาของเราเพิ่มขึ้นมาอีก เช่น การหมดเงินไปกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การซื้อของเกินกำลังทรัพย์ที่เรามีอยู่ เพราะเราเชื่อว่าแนวทางเหล่านี้จะทำให้พักความทุกข์ของเราไปได้
.
แต่สุดท้ายแล้วความทุกข์หรือปัญหาต่างๆนั้นยังคงอยู่เหมือนเดิม 
.
ในทางพุทธศาสนาสอนเรื่องทุกข์ไว้ 4 ข้อเป็นหลักของความจริง อริยสัจ 4
.
ทุกข์  สมุทัย นิโรธ มรรค
.
คือเมื่อเรามีความ(ทุกข์) แสดงว่าจะต้องมีสาเหตุที่ทำให้เราเกิดความทุกข์ (สมุทัย)
.
จากนั้นความทุกข์ทั้งกลายจะดับลง (นิโรธ)  เพราะมาจาก(มรรค)หรือ แนวทางในการดับทุกข์นั่นเอง
.
หากเราตกงานความทุกข์ของเรา คือการไม่มีเงิน โดนดูถูก การที่เราจะดับซึ่งความทุกข์ได้นั้น เราจะต้อง
ใช้แนวทางในการดับทุกข์คือ มรรค ซึ่งอาจจะต้องขยัน ให้มากขึ้นศึกษาหาความรู้ให้มาขึ้นในขณะที่เราตกงานหรือขาดโอกาส แต่เราจะต้องไม่หยุดสู้ และแก้ปัญหาเพื่อที่จะทำให้เราได้งานทำ
.
ซึ่งบางครั้งความทุกนั้นก้หนักหนาสาหัส แต่เมื่อเรามุ่งมั่นเพื่อที่จะให้ความทุกข์นั้นหลายไปให้ได้ มีแค่
การต้องลงมือต่อสู้กับปัญหานี้เท่านั้น  ผู้อ่านถึงจะสามารถดับซึ่งความทุกข์เกี่ยวกับงานได้
.
ในช่วงชีวิตเล็กๆของตัวผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ทีี่แย่ๆมากมายเหมือนกับผู้อ่านทุกๆท่าน เข้าใจความทุกข์ยากของผู้อ่านไม่น้อย จึงอยากที่จะให้กำลังใจกับผู้อ่านในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ในช่วงเวลาดังกล่าว
.
หากเราเหนื่อยก็นอนพักยาวๆสักครู่ ครั้นมีเรี่ยวแรงกลับมาก็นำมาสู้กับความทุกข์ที่เราต้องพบเจอต่อ เพื่อให้ความทุกข์นี้หายไป เปรียบเสมือนเราถูกปล่อยไว้กลางป่า ไม่มีน้ำอาบ เนื้อตัวเหม็น หากเราไม่มุ่งมั่นเดินต่อไป เราก็จะติดอยู่ในป่าแห่งนี้ไปเรื่อยๆ ป่าแห่งความทุกข์
.
จึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องมีความอดทนเพื่อที่จะนำร่างกายของเรานั้นฝ่าป่าออกไปอย่างเน่วแน่มีแนวทาง และไม่หวาดหวั่นกับคำพูดหรือคำสบประมาทของผู้อื่น เพื่อที่เราจะได้พบแสงสว่างและลำธาร ได้พ้นไปจากป่าแห่งนี้ และจะได้กำจัดความทุกข์ออกไปจากใจได้ซึ่งเป็นวิธีที่จะกำจัดให้หายขาดได้อย่างแท้จริง

durango & silverton, กลางวัน, กลางแจ้ง