มีเท่าไหร่ก็ทำเท่าที่มีให้ดีที่สุดไปก่อน
คนเรามักจะคิดว่าเราจะสมบูรณ์แบบก่อนถึงจะทำสิ่งนั้นๆได้
แต่ในความเป็นจริงนั้นความไม่สมบูรณ์นั้นแหละเป็นชีวิตและเป็นสิ่งที่คนที่เข้าใจเท่านั้นถึงจะได้ประโยชน์จาก
“ความไม่สมบูรณ์แบบ” ไป
อย่างวัยเด็กของคนทั่วไปนั้นเป็นวัยที่เรามีเวลาเยอะ
แต่เราไม่มีเงิน เป็นวัยที่เราสามารถจะหาประสบการณ์ต่างๆไปเที่ยวเล่น
ไปออกกำลังกาย ได้อ่านหนังสือ ดูหนังเป็นปริมาณมาก เพราะเราว่าง
หากเราโตขึ้นมาหน่อยเวลาเราก็มีน้อยลง เราเริ่มมีภาระมากขึ้น เราได้ทำอะไรที่ตอนช่วงวัยเด็กไม่ได้ทำ
เราอาจจะอ่านหนังสือหรือดูหนัง ได้น้อยลง แต่เราได้ชดเชยมาแล้วหากตอนเป็นเด็กเราได้เก็บความรู้หรือประสบการณ์นั้นเต็มที่
เมื่อเราเป็นนักเรียน
นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนหนังสือ มีเวลาได้อยู่กับการคิดวิเคราะห์ เรียนรู้ แต่ยังมีเงินน้อยอยู่นั่น
เราก็เพียงแต่ต้องทำอะไรสักอย่างในตอนนั้นให้ดีที่สุด
เมื่อเราทำงานความรู้ตลอดเวลาที่เราได้เรียนรู้ในวัยเด็กก็จะทำให้เราทำงานได้ง่าย
มีความรู้เพื่อใช้แก้ปัญหาเพราะ เพราะเราได้สร้างหรือสะสมมาแล้วในอดีต
ในแต่ละช่วงชีวิตเรามักจะมีอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ
เช่นมีเงินแต่ไม่มีเวลา มีเวลา แต่อยู่ต่างจังหวัดไม่ได้อยู่กับครอบครัว
เราเพียงแต่ต้องรู้ว่า “ใจเราต้องการอะไร”
และเริ่มทำอะไรก็ได้ที่ขณะนั้นเราทำได้ แม้ว่าเราจะโหยหาสิ่งอื่นอยู่
แต่เมื่อวันที่เราผ่านช่วงชีวิตเหล่านี้ไปแล้วประสบการณ์
ความรู้ต่างๆที่เราได้ใส่ใจในวันนี้จะช่วยเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้นเอง
ผมว่าถ้าเรามีอะไรเราก็ทำมันให้ดีที่สุดไปก่อนแม้วันนี้เราจะไม่เห็นค่ามัน
แต่วันที่เราไม่มีเวลาพอที่จะทำสิ่งนี้
เราจะเห็นคุณค่าจากการทำอะไรก็ตามให้ดีที่สุดในแต่ละวันเอง
คุณานนต์
ไข่มุกข์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น