เมื่อเราโตขึ้นเราจะเริ่มคิดถึงการหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพและครอบครัว
สิ่งหนึ่งที่จะเกิดกับเราในขณะที่เรามุ่งหาเงิน หรือทำงานเพื่อเงิน เราจะเกิดความโลภ อยากจะร่ำรวยด้วยความรวดเร็ว
ทางลัด จากการกู้เงิน จากการทำในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบหรืออยากทำเพื่อเงิน เหตุผลเป็นเพราะเรากำลังทำงานเพื่อเงิน
ไม่ได้ทำงานเพื่องาน เมื่อเราเริ่มเกิดความโลภจะมีธุรกิจต่างๆนาๆที่ทำให้เราเห็นช่องทางเมื่อเราสนใจเช่น
ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง แชร์ลูกโซ่ กู้เงินมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คอร์สสัมนา
นายหน้า เป็นต้น
เหล่านี้นั้นในมุมหนึ่งหากเรามีความรู้และเราชอบในงานนั้นจริงๆ
ไม่ได้เอาเงินมาเป็นที่ตั้งเราจะมีความสุขและทำมันได้ดี แต่หากเราทำงานเพื่อเงิน
เห็นว่าธุรกิจดังกล่าวทำแล้วรวยแล้วนั้น จะทำให้ความหายนะเข้ามาเยือน
ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเครือข่าย การขายของของธุรกิจเครือข่ายคือการชักชวนเพื่อนเขามาใช้สินค้าของเรา
หากเราคะยั้นคะยอมากเกินไปและทำให้เพื่อนลำบากใจก็จะทำให้ไม่มีใครอยากจะรู้จักเรา
เพราะเจอหน้าจ้องแต่จะขายของ ประชุมบ่อยมีทีม การทำงานเป็นทีมจะสำเร็จได้ไว
นี่เป็นหนึ่งในคำปลุกใจที่เหล่าหัวหน้าจะปลุกใจลูกทีม ในความเป็นจริงนั้น
สิ่งที่เป็นอีกด้านของเหรียญคือ
การอยู่ด้วยกันหลายคนหรือการทำงานเป็นทีมเป็นเหตุให้เกิดความเป็นทุกข์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มี การนินทา ถูกใจ ไม่ถูกใจกัน เสมอๆ
ให้เราจงหาตัวเองเสมอๆไม่ว่าตอนนี้เราอายุเท่าไหร่
ให้หาคำตอบว่างานอะไรที่เราชอบและถนัด ทำมันได้ดี และอยากอยู่กับมันมากกว่างานอื่น
ในบางท่านมักจะคิดว่าสิ่งที่เราชอบจะต้องชอบตลอด
ชอบทุกเวลา นั่นไม่เป็นความจริง งานที่เราชอบและถนัด เราอาจจะไม่ได้อยากทำบางเวลา
เพราะตามหลักพุทธศาสนานั้น ไม่มีอะไรเที่ยง
ดังนั้นงานที่เราชอบหรือถนัดก็ไม่ใช่หมายความว่าเราจะไม่มีช่วงเวลาที่เบื่อมัน
เพียงแต่เราทำมันได้ดีและมีความสุขเมื่อได้ทำมันในขณะที่ใจกลับมาเป็นปกตินั่นเอง ดังนั้นให้ทำงานเพื่องาน
แล้วเราจะมีความสุขและหาความสุขจากงานได้แม้จะไม่ได้เงิน แต่ท้ายที่สุดแล้วผลของสมาธิจากการทำงานที่ชอบและรัก
ย่อมทำให้เราเห็นช่องทางที่จะหารายได้
หากเราทำงานเพื่องาน
ทำให้เหมาะสมกับฐานะ ขัดเกลาจิตใจอ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรม นั่งสมาธิ ให้ทาน
กตัญญูเสมอๆ ย่อมทำให้เราสามารถละความโลภออกจากใจได้อย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น