ขอให้ลองตัดสินใจจากการไตร่ตรองที่ดีแล้วไปก่อน
เพราะเมื่อเราได้ตัดสินใจแล้วนั้นการตัดสินใจครั้งต่อไปจะทำให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้เดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพเขตลาดกระบังซึ่งวันที่ผมไปถึงนั้นเป็นวันศุกร์
ผมนั่งรอแฟนเลิกงานกว่าเขาจะมาถึงนั้นก็ประมาณ 6 โมงเราถึงได้เจอกัน ในช่วงวันศุกร์เย็นนั้นแถบนี้เรื่องรถติดแทบไม่ต้องพูดถึงเลย
ผมตัดสินใจว่าจะนั่งรอที่คิวรถอีกสักประมาณ 1 ชม.ครึ่ง ให้ปริมาณรถลดลงหน่อยแล้วจึงค่อยโบกแท็กซี่เข้าที่พักจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับรถติดและหลักๆคือจะได้ประหยัดค่าโดยสารด้วยเพราะกว่าจะถึงคงนานแน่ๆ
แต่แฟนของผมขี้เกียจรอ
เขาตัดสินใจที่จะโบกแท็กซี่ไปเลยและเขาคิดว่าคงจะถึงที่พักเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลานั่งรอเปล่าประโยชน์ โดยปกติค่าโดยสารจากขนส่งไปที่พักผมโดยรถแท็กซี่นั้นจะอยู่ที่ประมาณ
100 บาทถ้ารถไม่ติด
เมื่อขึ้นมาบนแท็กซี่นั้น
ผมก็คำนวณค่าโดยสารไว้ประมาณ 200-300 บาทเผื่อรถติดเพราะผมจินตนาการดูแล้วนึกไม่ออกถึงการเคลื่อนที่ของรถในช่วงศุกร์เย็นเลยจริงๆ
ผู้ขับนั้นใช้อีกเส้นทางหนึ่งที่อ้อมกว่า
ตอนนั้นผมก็เลยนึกออกว่ามีเส้นทางนี้ด้วยซึ่งน่าจะลดการติดขัดของจราจรได้ดีกว่า แต่เมื่อมารู้จริงๆบนรถเมื่อผู้ขับขับไปได้ระยะหนึ่งคือเขาคิดว่าเราจะไปโรงงานก่อนถึงที่พัก
เขามาผิดทาง แต่ในใจผมคือคิดว่าเส้นนี้น่าจะดีกว่าเส้นปกติอยู่เพราะจาก Google
map นั้นมีช่วงรถที่ติดบนถนนไม่มากนัก
ปรากฏว่าค่าโดยสารในช่วงเย็นอยู่ที่ 140 บาท และใช้เวลาประมาณ 30 นาที มาถึงที่พัก
ผมรู้สึกค่อนข้างพอใจกับการตัดสินใจของแฟนที่จะไปทันที
ทำให้ผมรู้สึกว่าการตัดสินใจบางครั้งแม้มันจะดูไม่น่าจะได้ไป (เราอาจจะมองอะไรพลาดไป)
แต่ถ้าเราตัดสินใจดีแล้ว แล้วรอฟังผลมัน
ครั้งต่อไปเราจะรู้ว่าการตัดสินใจก่อนหน้านั้นดีหรือไม่ ถ้าดีก็ทำต่อไป
ถ้าไม่ดีก็เปลี่ยน แต่หากเราไม่ตัดสินใจทำอะไรสักทีนั้น
สมมตฐานที่เราคิดตั้งไว้นั้นก็ไม่ได้ผ่านการพิสูจน์มาเป็นความจริงเสียที
ผู้เขียนบทความ
คุณานนต์ ไข่มุกข์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น